อยากสูง เราจะเลือก อาหารเสริมความสูง แบบไหนดี
พ่อแม่ เป็นห่วงเรื่องความสูงของลูก เพราะความรัก และอยากให้ลูกได้โอกาสที่ดี ความสูงก็จะทำให้ลูกเราดูดีด้วย ถึงได้หา ไม่ว่าจะอาหารเสริม วิตามิน หรือไปออกกำลังกาย เพราะว่าต้องการให้ลูกที่เรารัก แข็งแรง เติบโต และสูงสง่า ดูดี เชื่อว่า พ่อแม่ ทุกคนเป็นแบบนี้ แล้วถ้า อยากสูง อาหารเสริมความสูง ที่เราเลือก เราต้องเลือกอย่างไรดี ?
ในหลายๆ บทความที่ผ่านมา ความสูงของลูก เด็กๆที่เรารัก เกิดจาก ส่วนที่ควบคุมไม่ได้ และส่วนที่เราเสริมได้ หรือสามารถดูแลได้ สำหรับส่วนที่ควบคุมไม่ได้ คือ พันธุกรรม เช่น พ่อ แม่ ไม่สูง ลูกอาจจะไม่สูงได้ อันนี้เป็นส่วนที่เราคุมไม่ได้ เพราะว่า เป็นมาตั้งแต่เกิดเลย
ส่วนที่สามารถเสริม หรือช่วย ให้ความสูงเพิ่มขึ้นได้เช่น
อาหารเสริม และวิตามิน
การพักผ่อน และการดูแลร่างกาย
และเชื่อว่า หลายๆท่าน จะได้ดูเรื่องอาหารเพิ่มความสูง มาบ้างแล้ว ซึ่งในบทความนี้เราจะเน้น มากๆเรื่อง อาหารเสริมความสูง ที่เหมาะกับคนที่ อยากสูง มาดูเลยว่า อะไรที่คุณต้องได้รับ เพื่อให้ ความสูงลูก สูงขึ้น
แคลเซียม
แต่สิ่งคนส่วนไม่รู้คือ แคลเซียมไม่ใช่ตัวหลักในการกระตุ้นความสูง แต่เป็นตัวสร้างฐานมวลกระดูกที่แข็งแรงเพื่อรองรับการยืดตัวที่ตามมา
การทานแคลเซียมที่สำคัญคือเน้นไม่ให้ขาด เพื่อให้กระดูกสามารถยืดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อเราได้รับแคลเซียมเพียงพอแล้ว บทบาทของมันก็จะจบลง แคลเซียมจะไม่ได้ทำหน้าที่ กระตุ้นให้สูงเพิ่มขึ้นอีกต่อไป แต่ตัวกระตุ้นความสูงหลักคือโกรทฮอร์โมนหรือฮอร์โมนเจริญ เติบโต วิตามิน และแร่ธาตุ ซึงสามารถสร้างได้จากการได้รับสารอาหารหลักกลุ่มกรดอะมิโน โปรตีน , วิตามิน และแรธาตุ ต่างๆ
ดังนั้นแม้ว่าเราจะทานอาหารเสริมแคลเซียมเยอะแค่ไหนไม่ว่าจากอาหารธรรมชาติหรืออาหาร เสริมแคลเซียม ก็จะช่วยได้แค่ถึงจุดหนึ่ง ถ้าเราขาดสารอาหารกลุ่มหลักในการเพิ่มส่วนสูงอื่นๆ ก็จะสูงได้ยาก แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นสารอาหารที่ถ้าขาดจะมีผลเสียต่อการเจริญเติบโตเช่นกัน และมีบทบาทสำคัญมากในกระบวนการเจริญเติบโตของเด็ก จึงไม่ควรขาดการบำรุง
ถ้าเราขาดวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ร่างกายก็จะดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้น้อย ไม่สามารถดูดซึมไป ใช้สร้างกระดูกได้มีประสิทธิภาพอยู่ดี ดังนั้นการบำรุงที่สมดุลจึงเป็นหัวใจหลักของการเพิ่มส่วน สูงที่มีประสิทธิภาพที่สุด
นอกจากนี้แล้ว วิตามินดี ก็จำเป็นต่อการให้ร่างกายเอาไปใช้งาน
Vitamin D เป็นวิตามินชนิดละลายในไขมันที่พบ ได้หลายรูปแบบ แต่รูปแบบที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่
วิตามินดี 2 หรือเออโกแคลซิเฟอรอล (Vitamin D2/Ergocalciferol) พบได้เฉพาะในพืช เท่านั้น
วิตามินดี 3 หรือโคเลแคลซิเฟอรอล (itamin D3/Cholecalciferol) ได้รับจากการ สังเคราะห์ที่ผิวหนังเมื่อโดนแสงแดดอ่อน ๆ และอาหาร โดยทั่วไปมักเรียกรวมเป็นวิตามินดี
วิตามินดีมีความสำคัญต่อร่างกาย ช่วยทำให้แคลเซียมที่รับประทานเข้าไป สามารถดูดซึมได้ยิ่งขึ้น และอย่างที่ทราบกันว่า แคลเซียมมีความสำคัญต่อกระดูกของร่างกาย หากขาดวิตามินดี ก็จะทำให้แคลเซี่ยมดูดซึมและมีผลดีต่อกระดูกไม่ได้เต็มที่
แล้ว D2 vร D3 แบบไหนเห็นผลดีกว่า ?
วิตามินดีทั้ง 2 ชนิด จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเหมือนกัน แต่ว่า ตับ (Liver) จะมี กระบวนการณ์สังเคราะห์เพื่อนำไปใช้ที่ต่างกัน
ตับจะเปลี่ยนวิตามินดี 2 ให้กลายเป็น 25-Hydroxsvitamin D2 และวิตามินดี 3 เป็น 25-Hydroxyvitamin D3 ซึ่งนี่คือรูปแบบวิตามินดีที่ร่างกายนำไปใช้ได้ นักกำหนดอาหารจะเรียกสาร 2 ตัวนี้รวมกันว่า Calcifediol
ถ้าเราอยากรู้ว่าร่างกายขาดวิตามินดีหรือเปล่า จะต้องตรวจเลือด (25-Hydroxy Vitamin D Blood Test) เพื่อหาระดับ Calcifediol ถ้ามี Calcifediol น้อย ก็หมายความว่าร่างกายเรา กำลังขาดวิตามินดี
งานวิจัยส่วนใหญ่พบว่า : วิตามินดี 3 จะเพิ่มระดับ Calcifediol ในเลือดได้เยอะกว่า วิตามินดี 2 (เยอะกว่า 1 เท่าตัว) ดังนั้น ใครที่ซื้ออาหารเสริมวิตามินดี ควรเลือกซื้อเป็น วิตามินดี 3 จะดีกว่า
วิตามิน เค
เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เรามักท่องว่าวิตามิน ADEK เป็นวิตามิน ที่ละลายในน้ำมัน และวิตามินเค มีมากในผักคะน้า ผักคะน้า มีประโยชน์หลายอย่างจริงๆ ปกติรูปแบบของ vitamin K ในธรรมชาติจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ (ส่วน K3 ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ และไม่ได้ทำหน้าที่เป็นวิตามินเคอย่าง แท้จริง และในตัวมันเองก็ไม่จัดว่าเป็นวิตามินที่ดีต่อร่างกาย) สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ วิตามินเค มีมากใน
Vitamin K1 (Phytonadione, phyloquinone) ซึ่งเป็นชนิดของ vitamin K ชนิดเดียวที่ได้จากพืชและสาหร่าย ช่วยป้องกันเลือดออกภายในและเลือดออกไม่หยุด ช่วยบรรเทาอาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ ช่วยในกระบวนการสร้างลิ่มเลือด
Vitamin K2 (Menaquinones) นั้นเกิดจากแบคทีเยสร้างขึ้นมา อาหารหมักดองโดยปกติในชีวิตประจำวัน ช่วยเรื่องการดูดซึมของแคลเซียม ช่วยป้องกันกระดูกเปราะบาง
คนเราได้รับ vitamin K1 เป็นส่วนใหญ่ เพราะได้มาจากอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งเมื่อถูกดูดซึมเข้า ร่างกายสุดท้ายจะไปเก็บสะสมไว้ที่ตับ
วิตามิน ซี
วิตามินซี (Vitamin C) หรือ กรดแอสคอร์บิก เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก และเราจะคุ้นชินกันเป็นอย่างดี
แต่มนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เอง จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับจากอาหารที่มีวิตามินซีเป็นองค์ประกอบ เพื่อเสริมวิตามินซีให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจนที่มีความจำเป็นต่อโครงสร้างส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะการเสริมสร้าง ผิวหนัง เส้นเอ็น กระดูกอ่อน
ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด ต่อต้านการสร้างสารไนโตรซามีน (สารก่อมะเร็ง) มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์และดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย
วิตามินซีจะถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อตกอยู่ในสภาวะเครียด
ศัตรูของวิตามินซี ได้แก่ แสง ออกซิเจน น้ำ ความร้อน การสูบบุหรี่ การปรุงอาหาร เพราะฉะนั้นการเลือกรูปแบบของ วิตามินซีที่รับประทานจึงมีความสำคัญเพราะเป็นส่วนประกอบของร่ายกาย และมีผลกับเรื่องภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายแข็งแรง ก็จะทำงานได้เต็มที่
วิตามิน บี วิตามมินบีรวม
Vitamin B or B complex ที่เรารู้จักมักคุ้นกันในรูปของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่คุณรู้หรือไม่ว่าวิตามินบีนั้นมีอยู่หลายชนิด และต่างก็มีประโยชน์ที่ต่างกันออกไป โดยวิตามินบีแต่ละตัวจะทำงานเสริมซึ่งกันและกัน ต้องรับประทานร่วมกันจึงจะมีประสิทธิภาพ มากกว่าการ แยกรับประทาน สำหรับชนิดต่าง ๆ ของวิตามินบีรวมนั้น ก็ได้แก่ Vitamin B1, 2, 3, 4, 6, 7, 9, 12
Vitamin B1 บำรุงกระบวนการเจริญเติบโต ส่งเสริมระบบการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร บำรุงการสร้างเลือด เพื่อให้อวัยวะต่างๆทำงานดีขึ้นและทำงานเป็นองค์รวมในการสนับสนุนกระบวนการเจริญเติบโตให้ดีขึ้น
Vitamin B2 สำคัญสำหรับทั้งการช่วยเพิ่มส่วนสูง และบำรุงระบบประสาทให้ทำงานเป็นปกติ และทำหน้าที่ สนับสนุนการสร้างเซลล์ใหม่ ทั้งเซลล์กระดูก เซลล์ผิวหนัง เล็บ เส้นผม
Vitamin B3 ช่วยเพิ่มพลังงานที่ได้จากการย่อยและเผาผลาญอาหาร เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
Vitamin B5 ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ป้องกันการอ่อนเพลีย
Vitamin B 6 ทำให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดียิ่งขึ้น เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง
Vitamin B7 ช่วยในการเผาผลาญไขมันและโปรตีน ช่วยป้องกันและรักษาโรคเกี่ยวกับเส้นผมและเล็บ
Vitamin B9 ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ รักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
Vitamin B12 ช่วยทำให้เด็กเจริญอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถใช้ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตได้อย่างเหมาะ สม ช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และการทรงตัว บำรุงประสาททำให้ระบบประสาทแข็งแรงขึ้น
สังกะสี หรือ Zinc
แม้ว่าสังกะสีจะไม่ใช่ส่วนประกอบหลักของกระดูกเหมือนแคลเซียม แต่ก็เป็น แร่ธาตุที่สำคัญในกระบวนการสร้างมวลกระดูก นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในกระบวนการเจริญเติบโตดังนี้
ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน เพื่อกระตุ้นการแบ่งเซลล์ สร้างเซลล์ใหม่
ช่วยให้ความอยากอาหารดีขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารดีขึ้น
Zinc มีผลต่อการเพิ่มความสูงได้เพราะมีความจำเป็นต่อการสร้างโปรตีน โดยเฉพาะโปรตีนคอลลาเจนจะมีผลต่อการเจริญของกระดูกท่อนยาว ช่วยสร้าง ภูมิคุ้มกัน เมื่อไม่เจ็บป่วยบ่อยการเจริญเติบโตไม่หยุดชะงัก นอกจากนี้ Zinc ยังช่วยเพิ่มการอยากอาหาร ย่อมมีส่วนเสริมสร้างความสูงได้ในอีกทางหนึ่ง
การขาด Zinc จะชะลอการสร้างเซลล์ใหม่และการเจริญเติบโตของกระดูก โดยเฉพาะ หากขาดในปริมาณมาก อาจจะหยุดการยืดตัวได้เลยทีเดียว
ไลซีน
ไลซีน (Lysine) คือหนึ่งในกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ซึ่งจัดเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากสารอาหารอื่น ๆ โดยกรดอะมิโนชนิดนี้มีความสำคัญอย่างมากในการช่วย สร้างโปรตีนที่สำคัญต่อร่างกาย ร่างกายจึงต้องการกรดอะมิโนนี้เพื่อช่วยในการเจริญเติบโต เสริมสร้างภูมิต้านทาน ฮอร์โมน เอนไซม์ต่าง ๆ รวมไปถึงการซ่อมแซมเนื้อเยื่อด้วย
เพิ่มGrowth Hormones ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย เพิ่มความสูงในเด็ก
มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
เป็นหนึ่งในกรดอะมิโนจำเป็น 3 ตัวหลัก ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต Puritan Tri-Amino Acid (L-Arginine , L-Ornithine , L-Lysine )
ช่วยป้องกันและรักษาโรคกระพรุน
พบได้ใน เนื้อสัตว์ ปลา นม ไข่ ชีส ยีสต์ ถั่วลิมา ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง รวมไปถึงอาหารที่มีโปรตีนสูง ทุกชนิด
โปรตีน
คือสารอาหารที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน มีหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนัง กระดูก และกล้ามเนื้อ แหล่งที่มาของโปรตีนสามารถแบบได้เป็น 2 แบบ คือ
โปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ในรูปแบบโปรตีนสมบูรณ์ ซึ่งมีกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการในซ่อมแซมความที่สึกหรอ
โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเหลือง ถั่วต่างๆ และเป็นไปได้ที่อาจจะมีกรดอมิโน น้อยเกินกว่าความต้องการของร่างกาย ดังนั้นสำหรับผู้ที่เลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์จึงควรรับประทานถั่ว ธัญพืช ผักและผลไม้ให้หลากหลายและเพียงพอเพื่อทดแทนโปรตีนจากสัตว์
ประโยชน์ของโปรตีน
เมื่อเราทานโปรตีน จะช่วยให้อิ่มได้นานขึ้น และอิ่มง่าย
ช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง เป็นโปรตีนที่มาจากพืช
ช่วยเรื่องผม และเล็บ
เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
นอกจากนี้แล้ว โปรตีนยังมีส่วน ช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้เป็นปกติ ยังช่วยรักษาสมดุลของปริมาณน้ำตาลในเลือด รักษาเนื้อเยื่อ ซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ รักษาระดับปริมาณน้ำในเซลล์และหลอดเลือดให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ
แล้วเราจะเลือก อาหารเสริมความสูง อย่างไรที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อความสูงครบ
เม็ดเดียวครบ จบทุกความสูง จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ HiGo
Calcium amino acid chelate : เป็นแคลเซียมในรูปแบบที่จะช่วยเพิ่มระดับแคลเซียมใน เลือด และนำไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกว่ารูปแบบทั่วไปในท้องตลาด เนื่องจากความสามารถในการละลายน้ำและการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายที่ดีกว่า
Salmon nasal cartilage extract : สารสกัดจากกระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน มี คุณสมบัติในการเสริมสร้างและปกป้องความแข็งแรงของกระดูกอ้อน เนื่องจากมีโปรตีน Proteoglycan ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของกระดูกอ่อน ทำให้กระดูกอ่อน แข็งแรง รองรับการเติบโตได้ดี
Collagen Type 2: คอลลาเจน ไททู เป็นโปรตีนที่สำคัญที่สุดในกระดูกอ่อน จำเป็นต่อ การคงความแข็งแรงของกระดูกอ่อนเอาไว้ และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนขึ้นมาใหม่ได้อีกด้วย
Whey Protein Isolate : เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพเหนือกว่า Whey Protein Concentrate ในท้องตลาด ที่จะช่วยกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงเซลล์ต้นกำเนิดที่ใช้สร้างกระดูก เพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์กระดูก ทำให้มวลกระดูกมีความแข็งแรงมากขึ้น
Colostrum : น้ำนมแรกของแม่วัว มีส่วนช่วยในการเพิ่มระดับ Growth Hormone ที่สำคัญ ได้แก่ IGF-1 ซึ่งจัดเป็นสารกระตุ้นการเจริญเติบโตที่สำคัญต่อการเพิ่มความสูง และยังช่วยเพิ่มการสร้างเซลล์กระดูกจึงมีส่วนทำให้ความยาวและความแข็งแรงของกระดูกเพิ่มขึ้น
Vitamin K2 : หนึ่งเดียวในทยที่ใช้วิตามินเค ในรูปแบบ K2 ซึ่งเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการนำพาแคลเชียมเข้าไปสะสมในกระดูก และทำให้แคลเซียมยึดเกาะกับโครงร่างของกระดูกไว้ได้ดีที่สุด ทำให้มวลกระดูกมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ อาหารเสริมความสูง HiGo
สามารถเริ่มใช้ได้ในเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป
โดยแนะนำให้ในเด็กอายุ 5 - 9 ปี รับประทานวันละ 1 เม็ด หลังอาหาร
สำหรับเด็กอายุ 9 ปีขึ้นไป รับประทานวันละ 1 - 3 เม็ด หลังอาหาร
กลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร HiGo
ผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD (G6PD deficiency)
ผู้ที่มีโรคตับ ไต ทุกระยะ (ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆเสมอ)
สตรีมีครรภ์
สตรีให้นมบุตร
ผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารทะเล
ผู้ที่มีประวัติแพ้โปรตีนในนม
コメント